IRON HEART




ย้อนไปถึงบ้านเราในยุคเก่าในยุคยีนส์ลีวายส์ครองเมืองดูเหมือนเป็นอะไรที่เล่นง่ายไม่กว้าง ยีนส์ตัวเก่งของนักเล่นยีนส์ทั้งหลายคงหนีไม่พ้นยีนส์ฟอก 501 ริมแดง หรือแพงหน่อยก็ Big-E และถ้ามีเวลามากหน่อยก็สามารถหาตัวตะเข็บงามๆที่ขึ้นเต็มทั้งซ้ายและขวาเท่านั้นเป็นอันหล่อและจบ แต่ในยุคปัจจุบันอะไรก็เปลี่ยนไปรายละเอียดและข้อแม้ในการเลือกซื้อมีเยอะขึ้นมาก จริงๆแล้วถือเป็นข้อดีของผู้ซื้อนะเพราะสามารถเลือกยีนส์ที่เข้ากับเราได้มากที่สุด น้องๆวัยรุ่นสมัยนี้เองก็มีความรู้พื้นฐานเรื่องยีนส์มากขึ้นด้วย น้องๆหลายคนที่ผมรู้จักเวลามาพูดคุยเรื่องยีนส์กับผมมักเปิดประเด็นด้วยเรื่องออนซ์ตามด้วยผ้าจากประเทศไหน? สองสิ่งนี้ผมเองจัดเป็นเรื่องสำคัญแรกๆของการเลือกซื้อยีนส์เลยครับ เพราะออนซ์จะเป็นตัวบ่งบอกถึงความหนาของเนื้อผ้าซึ่งความสบายในการสวมใส่ของแต่ละคนจะขึ้นอยู่กับสิ่งเหล่านี้ ส่วนประเทศผลิตผ้าหรือผู้ปลูกฝ้ายจะบ่งบอกถึงเรื่องของการสัมผัสและระยะการใช้งาน และซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องผ้ายทอยีนส์ดังๆก็ต้องยกให้ประเทศซิมบับเว ญี่ปุ่น และแอฟริกาเค้าล่ะครับ สามประเทศนี้ถือว่าเป็นผู้ส่งออกฝ้ายรายใหญ่ๆที่มีคุณภาพเลยล่ะ

รีวิวนี้เราจะมาดูเจ้ายีนส์แบรนด์ Iron Heart กัน แต่ก่อนอื่นมาดูประวัติเล็กๆน้อยๆของแบรนด์นี้กันก่อน Iron Heart เป็นยีนส์แบรนด์สัญญาตญี่ปุ่นและยีนส์ทุกตัวถูกตัดเย็บในประเทศญี่ปุ่นทั้งสิ้น Iron Heart เป็นแบรนด์ที่มีแรงบันดาลใจมาจาก Boss ใหญ่และเจ้าของแบรนด์นาม ชินนิจิ ฮารากิ (Shinichi Haraki) ผู้ชื่นชอบการขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นชีวิตจิตใจ เริ่มแรกก็เหมือนยีนส์แบรนด์ดังอื่นๆของประเทศญี่ปุ่นครับที่มักจะมีการขายอยู่แค่ภายในประเทศเท่านั้นจนกระทั้งนาย กิลล์ แพทมอร์ (Giles Padmore) ได้มารู้จักและได้นัดพบเจอกับ ชินนิจิ ฮารากิ ที่ลอสแอนเจลิส และต่อมาก็ได้เป็นดิสทริบิวชั่นของแบรนด์ Iron Heart ที่นำพาแบรนด์นี้ออกจากญี่ปุ่นสู่สายตาชาวโลกจนเป็นที่รู้จัก



ยีนส์แบรนด์ Iron Heart จะขึ้นชื่อเรื่องความ “หนา” และ “ทน” เพราะผ้าในรุ่นต่างๆส่วนใหญ่จะเน้นใช้ผ้า 21ออนซ์ ในขณะที่แบรนด์ผ้าดิบทั่วๆไปจะอยู่แถวๆ 13.5 ถึง 15ออนซ์กว่าๆจะมากสุดก็17ออนซ์ (จริงๆแล้วทาง Iron Heart ก็มีรุ่นที่ใช้ผ้า 13-16-17-18-22 และ 25ออนซ์ขายเหมือนกันนะครับ) ผ้าที่ใช้ตัดเย็บ Iron Heart ถูกนำเข้าจากแหล่งดังและเป็นหนึ่งในประเทศที่ปลูกฝ้ายดีที่สุดที่ได้รับการยอมรับซึ่งก็คือประเทศซิมบับเว ตามคำกล่าวที่ว่าไว้ว่าฝ้ายจากซิมบับเวนั้นทอได้ยาวกว่าและมีความนุ่มมาก ซึ่งเป็นเพราะการเก็บเกี่ยวจากมือล้วนๆด้วยแรงงานโดยปราศจากเครื่องจักร ด้วยวิธีนั้นจึงทำให้เกิดการเจือปนได้น้อยมากจากสิ่งรอบข้างและตัวฝ้ายเองก็สมบูรณ์มากคือไม่มีการฉีกขาดเหมือนการเกี่ยวด้วยเครื่องจักร และนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ยีนส์หนาๆอย่างเจ้า Iron Heart นั้นสามารถใส่ได้อย่างสบายจนหน้าแปลกใจ



ล่าสุดทางร้าน Pronto ได้นำเข้ายีนส์แบรนด์นี้เข้ามาจำหน่ายครับ โดยประเดิมด้วย 2รุ่นคือ

1. IS-666S เป็นทรงเล็กที่เรียกตามศัพท์สากลได้ว่า “Super Slim Tapered”
ตัวยีนส์ใช้ผ้า 18ออนซ์ Raw Unsanforised และเป็นผ้าริม

2. IHXB01XRAW เป็นทรงขากระบอกเล็กตามศัพท์สากลว่า “Slim Tapered”
ตัวยีนส์ใช้ผ้า 18ออนซ์ Raw Selvage



กล่าวถึงผ้าจำพวก Unsanforised ก็ต้องขออนุญาตอธิบายก่อนสักนิดเผื่อกรณีเพื่อนๆน้องๆบางคนอาจไม่รู้จัก ผ้า “Unsanforised”ถ้าอธิบายแบบง่ายๆ คือผ้าที่ควรแช่น้ำก่อนสวมใส่เพราะมันยังไม่ได้ผ่านขั้นตอนการทำให้หดจากโรงงานมา ดังนั้นควรแช่เพื่อให้ได้ทรงที่ควรจะเป็น คือตัวยีนส์มันจะหดเล็กลงเช่นในช่วงเอวอาจหดลงได้ถึง 1-1.5นิ้ว ซึ่งเราเองก็สามารถเลือกหดมากหดน้อยได้โดยการเลือกแช่ด้วยน้ำร้อนหรือน้ำเย็น คือถ้าแช่ด้วยน้ำร้อนจะหดมากและน้ำเย็นหดน้อยครับ

เพื่อให้เห็นภาพเจ้า Iron Heart Denim ได้ดีขึ้นผมจึงขอในภาพบางส่วนมาให้ชมกันโดยภาพส่วนมากจะมาจากตัว IS-666S ครับ



ทั้งสองรุ่นใช้กระดุม4เม็ดครับ และมีการปั้มนูนคำว่า “IRON HEART WORKS INC,” ไว้ที่ตัวบน และใช้แบบหน้าเรียบสำหรับ3ตัวที่เหลือ และในส่วนผ้าด้านหลังบริเวณกระดุมนี้มีการใช้ผ้าริมแดงเย็บประกบด้วย



หมุดยึดต่างๆเป็นสีทองเหลืองตามลักษณะสากล และมีการปั้มคำว่า “IRON HEART WORKS INC,” ไว้ด้วยเช่นกัน ส่วนบริเวณหูสอดเข็มขัดใช้การพับเย็บให้ขึ้นนูนเวลา ซึ่งเฟดมันจะสวยครับและยังสามารถช่วยป้องกันการฉีกขาดของตัวด้ายที่เย็บได้ด้วย



บริเวณด้านในของช่องเก็บเศษเหรียญหรือไฟเช็ค (สำหรับผม) ใช้ผ้าริมเย็บประกบ ถ้ามองจากด้วยในถึงจะรู้ครับ



อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญไม่แพ้ชื่อของแบรนด์สำหรับยีนส์แบรนด์ต่างๆก็คือลายที่ประเป๋าหลังครับ สำหรับ Iron Heart นั้นก็เป็นอะไรที่เรียบง่ายและดูดีที่เดียว



ทั้งรุ่น IS-666S และ IHXB01XRAW ต่างใช้ผ้าริมแดง 18ออนซ์ และได้ใช้การเย็บแบบลูกโซ่ในส่วนปลาย ซึ่งก็ถือเป็นมาตราฐานทั่วไปสำหรับยีนส์ในยุคสมัยนี้ไปซะแล้ว



ท้ายสุดสำหรับเรื่องการสวมใส่ผมบอกได้เลยถ้าไม่มีประสบการณ์สำหรับยีนส์ผ้าหนาช่วงแรกอาจรู้สึกไม่สบายครับ แต่ถ้าใส่ไปไม่เกิน 2อาทิตย์อาการความกระด้างจะหายไปเยอะมากๆ แล้วถ้ายิ่งใส่ไปตัวผ้าจะนุ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่วนสำหรับไซส์ผมขอบอกตรงๆว่าแนะนำว่าให้ใส่ใจสักนิดแล้วหาเวลาว่างเข้ามาลองที่ร้านครับ การลองใส่ทำให้เราได้ยีนส์ที่ตรงกับความต้องการที่สุดแล้วจะคุ้มค่ากับเงินตราที่เสียไป ครับ

0 ความคิดเห็น: