ออกจากโรงแรม10โมงเช้าครับวันนี้ เราได้รับการต้อนรับจาก3ท่าน คือจากFLATHEADโดยหนึ่งในนั้นชื่อKyleซึ่งเป็นชาวอเมริกัน บ้านอยู่Texasและมาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษอยูญี่ปุ่นได้สองปีแล้ว Kyleบอกว่าเดิมชอบยีนส์มานานมากแล้ว เริ่มใส่ที่Nudieเป็นผ้าดิบตัวแรก และได้ศึกษาและเล่นบอร์ดมาตลอด เขาลองสมัครงานมาที่FLATHEADก่อนจบงานเดิมประมาณ3เดือน เขาทั้งตกใจและมีความสุขมากที่ทางFLATHEADตกลงรับเขา ช่วงเวลานี้ในทุกเช้าเขาจะพักอยู่ประมาณ5นาที โดยการเดินจากศูนย์FLATHEADในNaganoครับ เขาดีใจมากเช่นกันที่ได้มาเยี่ยมชมโรงงาน และเป็นครั้งแรกของเขาเช่นกันในOkayama
อีกท่านนึงเป็นลูกเจ้าของโรงงานที่FLATHEADทำงานด้วยครับ แต่งตัวเต็มยศFLATHEADเลยครับ และเขาเองก็มีแผนที่อยากจะทำงานร่วมกันกับFLATHEADในอีกระดับนึงซึ่งเราไม่สามารถเปิดเผยได้ ดูจากรถเขาและรสนิยมน่าจะคุยกับคุณKobayashiถูกปากอยู่
โรงงานนี้ก่อตั้งมากว่า25ปีแล้วครับและเป็นโรงงานแรกๆที่ทำยีนส์ตั้งแต่สมัยยีนส์Reproกำเนิด ปัจจุบันเย็บให้แบรนด์อื่นๆที่มีชื่อเสียงอยู่บ้างครับ แต่เขาแจ้งว่าความต้องการในคุณภาพของFLATHEADจะอยู่สูงกว่าและเป็นแบรนด์ที่ขั้นตอนการผลิตยุ่งยากที่สุด แต่จำนวนที่ผลิตก็เป็นอันดับหนึ่งในโรงงานเขา ในญี่ปุ่นFLATHEADจะอยู่”อันดับหนึ่ง”ครับจากที่ผมถามหลายๆร้านค้าที่เราได้ชมในโตเกียว
โดยที่ศูนย์ของโรงนี้จะเป็นการเย็บตัวอย่างก่อนส่งไปให้ทางแบรนด์ผ่านแล้วจึงจ่ายงานไปผลิตจริงตามโรงเล็กๆหรือเรียกว่าตามบ้านน่าจะเหมาะกว่าครับ
ออกจากศูนย์เรามุ่งหน้าตรงไปยังโรงตัดผ้าก่อนเลยครับ คุณลุงบอกว่าบ้านหลังนี้ถูกสร้างมากว่าร้อยปีแล้ว โดยช่วง50กว่าปีก่อนหน้านี้ ได้ขยายส่วนที่เป็นอาคารนี้และเริ่มต้นทำงาน เราจะเห็นว่าการทำงานที่โรงงานFLATHEADจะใช้เป็นตามบ้านมากกว่าซึ่งจะอยู่ในซอย บนเขา ในหลืบ เรียกได้ว่าถ้าไม่รู้จักดีก็ไม่มีทางหาพบครับ อาคารที่ทำงานจะอยู่ติดกับตัวบ้าน และเจ้าของบ้านก็เย็บกันเองสามี-ภรรยา ไม่ได้มีใครมาช่วย หรือจ้างลูกน้องเพิ่ม ขยายให้ใหญ่โต ดูแล้วพอเพียงมีความสุขดี
คุณลุงใช้มือในการทำทุกอย่างเองครับ การตัดผ้าแต่ละครั้งจะตัดที22ชิ้นโดยคุณลุงบอกว่าไม่ได้ตั้งจำนวนใว้เท่านี้แต่นี้เป็นปริมาณที่พอดี เพราะถ้ามากกว่าหรือน้อยกว่าจะรู้สึกว่างานออกมาไม่ดีเท่าที่ควรและควบคุมเครื่องยาก ลุงลองให้เราตัดกันดูจากเศษผ้าและเห็นได้เลยครับว่าไม่ง่ายเลยถ้าจะตัดให้ตรงและเรียบ และเสี่ยงอันตรายกับมือมากๆ ส่วนตัวผมปฏิเสธข้อเสนอนี้ไป และขอเป็นช่างภาพแทน
โรงงานนี้ก็มีหน้าที่นี้เท่านั้นครับ ตัดผ้าตามแบบออเดอร์และส่งไปให้ที่ต่อไป เราจะเห็นpatternของทรงต่างๆแขวนอยู่บนผนัง มีทรงของที่ร้านPRONTOอยู่ด้วย! รู้สึกแปลกครับ ยีนส์เราอยู่หน้าร้านมีให้เลือกครบแต่ไม่เคยคิดเลยว่าจะเคยเริ่มมาจากผ้าที่ตัดอยู่ที่บ้านหลังนี้ เสร็จแล้ว กล่วคำอำลาและก็เดินทางกนไปโรงต่อไป
โรงที่สองนี้เราพบกับคุณป้านี้ท่านเดียว จะเห็นได้ว่างานที่นี่มีหน้าที่เย็บลายกระเป๋า ตอกหมุดเข้ากระเป๋าหลังและเย็บติดกระเป๋าหลังเท่านั้น
การเย็บลายกระเป๋าคุณป้าจะเย็บด้วยมือเลยครับ ไม่ได้ใช้เครื่องปักที่เย็บทีเป็นแผงเสร็จ
ในการเดินตะเข็บกระเป๋าคุณป้าจะเย็บรวดเดียวเลย คือเริ่มจากมุมนึงเย็บวนลงไป ขึ้นไปอีกฝั่งแล้วอ้อมหมุดลงมาไปพบกับจุดแรกที่เย็บ เป็นการเย็บที่เซียนมากครับ และเป็นการเดินเข็มที่เป็นเอกลักษณ์ของFLATHEADที่หลายๆคนชื่นชอบ และหน้าที่ของโรงนี้ก็จะมีเท่านี้ เรียกได้ว่าหนึ่งโรงงานหนึ่งหน้าที่เลย เป็นปรกติของญี่ปุ่นจริงๆที่เลือกที่จะทำอะไรหนึ่งอย่างแล้วทำให้เป็นที่หนึ่ง บางร้านอาหารเข้าไปเราจะเห็นเลยว่าทำอาหารอยู่ประเภทเดียว หรือเมนูเดียว แต่ร้านอย่างนี้ดูแล้วรับรองได้ว่าอร่อยชัวร์แน่นอนครับ
เสร็จจากที่นี้แวะไปทานมื้อเที่ยงกันก่อน
เมนูนี้ปรกติไม่ค่อยปลื้มเท่าไหร่ครับ อูด้ง ถ้าเป็นราเมนน่าจะโอเคกว่านั่นคือสิ่งแรกที่คิดแต่ในKurashikiเมืองที่เราอยู่ตอนนั้นขึ้นชื่อในเมนูอูด้งครับ ชิมเข้าไปแล้วถึงกับเปลี่ยนใจมาชอบเลย คนญี่ปุ่นทานเร็วมาก เป็นเรื่องปรกติที่ทุกคนรวบตะเกียบแล้วผมยังไปไม่ถึงครึ่งทาง ร้านนี้นั่งแบบพับเพียบด้วยครับ ทานเสร็จต้องขอยืดขาให้เลือดเดินอีกสักครู่ถึงจะค่อยไปต่อได้
เสร็จแล้วก็ลุยกันต่อครับ โดยที่ต่อไปจะเป็นโรงเย็บประกอบยีนส์ครับ ทำงานกันอยู่สองท่านลุงกับป้าสามีภรรยา โดยลุงมีหน้าที่เย็บแถบเอวเข้ากับกางเกง ป้าจะเย็บตะเข็บบนของเอวโดยมีความเป็นเอกลักษณ์ที่การเดินเย็บจะเป็นการเย็บตะเข็บเดียวยาวๆอีกเช่นกัน
ข้างๆมือคุณป้าจะมีหูเข็มขัดและป้ายหนังอยู่ พอเย็บถึงจุดป้าก็จะวางหูเข็มขัดแล้วเย็บติดกับยีนส์ไปเลย ไม่มีการสะดุดหรือข้าม และก็ไม่มีการแต้มจุดใว้ เรียกว่าต้องทำงานอย่างมีสติมากๆ พอไปถึงจุดที่จะวางป้ายหนัง ป้าก็จะเย็บป้ายหนังโดยรอบเป็นตะเข็บเดียวซึ่งนั่นหมายถึงต้องบิดผ้ากางกงให้วนเป็นรอบ ใช้แรงเยอะมากๆครับและความแม่นยำ เสร็จแล้ววางหูเข็มขัดต่อและมาจบฝั่งปลายแถบเอวอีกข้าง นี่ก็เป็นอีกรายละเอียดที่หลายๆท่านอาจจะมองข้ามแต่ทางแบรนด์ใส่ใจมาก
เราคิดดูแล้ว มันจะช่างง่ายมากถ้าเขามีโรงงานใหญ่ๆสักอัน เอาช่างทั่วไปมาเย็บ เสร็จดโต๊ะนึงส่งต่อไปอีกโต๊ะ คนนึงก็เย็บหูอย่างเดียว คนนึงเย็บป้ายหนังอย่างเดียว ทำที่เดียวเสร็จ ไม่ต้องเสียเงิน เสียเวลาขนส่งจากบ้านหนึ่งไปอีกบ้าน แต่ไม่ครับ นี่คือรายละเอียด และมันเป็นสิ่งที่ทางแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จจะใส่มันลงไป แล้วคนที่ใส่ใจถึงจะสังเกตเห็นครับ
เสร็จจากหลังนี้แล้วก็ไปยังที่สุดท้ายที่จบงานครับ
จะเป็นที่ๆเย็บปลายขาเข้าด้วยจักรลูกโซ่ และต้องตอกกระดุมตอกหมุด ทั้งกางเกงและเสื้อยีนส์ครับ โดยจะต้องตอกหลังจากที่จบแล้วเท่านั้น นั่นคือถ้าเป็นพวกone washก็ต้องผ่านขั้นตอนเหล่านั้นมาจนเสร็จถึงจะตอกได้ ป้องกันการชำรุดครับและกันสนิมด้วย ส่วนการติดกระดาษพับที่กระเป๋าหลัง จะทำหลังเช็คคุณภาพอีกครั้งเท่านั้นครับ
すごい
ตอบลบ